[ รีวิว ] Eucerin Aquaporin Active ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสำหรับผิวขาดน้ำ


เมื่อสัปดาห์ก่อนนู้นวันที่ 22 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา พินนี่ได้รับเชิญไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Eucerin มาค่ะ งานจัดได้น่ารักมากชอบสุดๆ จัดที่ We*do Gallery ค่ะอยู่แถวๆ ทองหล่อนี่เอง ภายในงานก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย มีให้เพ้นท์ขวดแก้วเองเก๋ๆ ด้วย ค่ะ


งานนี้เพื่อนๆ บล็อกเกอร์ที่รู้จักหลายๆ คนก็มากันด้วย ยังกับรวมญาติแหนะ จริงๆ สิ่งที่พินนี่ชอบที่สุดเวลาได้ไปงานพวกนี้คือ การได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นี่ล่ะ เป็นอะไรที่แฮปปี้ที่สุดแล้ว


โดยภายในงานก็มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ  Eucerin Aquaporin Active 4 ตัวด้วยกันให้ได้ลองค่ะ : ) ประกอบด้วย
  • Eucerin Aquaporin Active - RICH formula
  • Eucerin Aquaporin Active - Light Formala
  • Eucerin Aquaporin Active - SPF 15 + UVA
  • Eucerin Aquaporin Active Refreshing Gel Lotion

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีดร.ยูลิยา ซีลินสกี้ Global Director of Medical Management ของ Dermocosmetics and Healthcare สำนักงานใหญ่ ไบเออร์สด๊อร์ฟ แฮมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี บินมาเพื่อร่วมงานนี้โดยเฉพาะด้วยค่ะ โดยมาให้ความรู้ที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับน้ำในผิวกายของเราค่ะ ขอบอกว่าตัวจริงสวยค่ะ หน้าเด้งมาเลย


แล้วก็ยังมีเภสัชกร มาให้ความรู้เพิ่มเติมอีกสองท่านด้วย (ขออภัยจำชื่อไม่ได้จริงๆค่ะ)


ขนมในงานก็อร่อยมาก แต่กินไปชิ้นเดียวเพราะปวดไมเกรน กินอะไรไม่ลง T_T




ก่อนจะกลับก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเพื่อนๆ บล็อกเกอร์กันซักนิด







พี่ปุ้ย Puyisme และน้องทราย Mhunoiii ก็มาค่ะ


และเป็นครั้งแรกที่พินนี่ได้เจอกับ Skippyth :) คุณหมอวิสัญญี ที่สวยที่สุดในประเทศไทยแล้วมั้งเนี่ย :) ตัวจริงน่ารักมากค่ะ ฟันเฟิร์ม



พอกลับมาบ้านก็ได้ฤกษ์ ลองซะเลย : ) อันนี้เป็น Eucerin Aquaporin Active Refreshing Gel Lotion ชอบอันนี้ที่สุด ละในเรื่องของเนื้อเจลนะคะ เพราะมันใสๆ บางๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่.... พินนี่ไม่ชอบกลิ่นนี้ง่ะ T_T ดมแล้วปวดไมเกรนหนักกว่าเดิม ช่วยด้วย ขอผ่าน แต่ถ้าใครชอบกลิ่นหอมแบบนี้ ลองดูได้ค่ะ น่าจะชอบกัน ตัวนี้สำหรับผิวทุกประเภท
  • เป็นสูตรเข้มข้น แต่เนื้อบางเบา
  • ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นทันที ยาวนาน
  • กักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ดีค่ะ
เป็นไซส์ใหญ่ 400ml. ราคาก็ 490 บาทเท่านั้นเองขวดหัวปั๊มใช้งานง่ายด้วยค่ะ




นอกจากนี้แล้วก็มีอีก 3 ตัวแบบที่ได้บอกไว้ข้างต้นค่ะ
  • Eucerin Aquaporin Active - RICH formula ตัวนี้สำหรับผิวแห้งเป็นพิเศษและขาดน้ำ 40ml. ราคา 1,100 บาท
  • Eucerin Aquaporin Active - Light Formala ตัวนี้สำหรับผิวธรรมดา-มัน และขาดน้ำ ซึมเร็วหน้าไม่มันค่ะ 40ml. ราคา 1,100 บาท
  • Eucerin Aquaporin Active - SPF 15 + UVA ตัวนี้สำหรับผิวทุกแบบ โดยเฉพาะที่ขาดน้ำและไวต่อแดด 40ml. ราคา 1,100 บาท


ในบรรดา 3 ตัว (สำหรับผิวหน้า) พินนี่ชอบสูตร Light มากที่สุด เพราะเป็นคนไม่ชอบเนื้อครีมอะไรก็ตามที่หนาๆ หนัก ๆเพราะมันจะรู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายตัว ดังนั้น Light ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ จากรูปจะเห็นความบางเบาของเนื้อครีมได้ดี
  • แบบ Light จะดูไหลๆ ลงมาเพราะเนื้อมันเบามากไม่แน่นไม่เกาะตัว แต่เวลาทาผิวแล้วซึมดี ซึมเร็วมากค่ะ
  • แบบ Rich เนื้อจะดูหนาๆ หนักๆ หน่อย เข้มข้นทีเดียวค่ะ เพราะว่าเอาไว้ใช้บำรุงคนที่ผิวแห้งมากๆาๆ
  • แบบ SPF อันนี้จะเนื้อออกหนาๆ หนักๆ สีออกเหลืองๆ หน่อย ไม่ใช่สีขาวๆ แบบสองอันแรก ต้องถูวนๆ หน่อยถึงจะซึม ซึมช้ากว่าแบบแรกเยอะมาก ส่วนประสิทธิภาพในการกันแดด ยังไม่ได้ลองค่ะ




แต่โดยรวมนะ พินนี่ว่า สำหรับอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา แบบ Light น่าจะตอบโจทย์ที่สุดค่ะ สำหรับแทบทุกสภาพผิวนะคะ จะได้สบายๆ ตัวกันเวลาทาเพราะเนื้อมันบางเบาที่สุดแล้ว และเป็นตัวที่พินนี่ชอบที่สุดด้วยค่ะ แต่ข้อเสียที่เห็นชัดมากๆ คือ หลอดเล็กจัง 1,100 บาท ใครคนอื่นอาจจะว่าไม่แพง แต่พินนี่แอบหวังว่า 1,100 บาท หลอดมันน่าจะต้องใหญ่กว่านี้หรือเปล่านะ ในขณะที่ทาตัว ขวดเบ้อเริ่มเลย 490 บาทเอง สำหรับใครที่สนใจ ลองไปซื้อหากันได้คิดว่า Watsons & Boots น่าจะมีขายนะคะ


Disclaimer : ได้ผลิตภัณฑ์มาทดลองจากในงาน Event ไม่ได้รับค่าจ้างในการรีวิว

มาพิมพ์สนุก กระตุกไอเดีย กับหมึกแท้ HP กันเถอะ!


ไม่รู้ว่าจะช้าไปหรือเปล่าที่จะมาเห่อ event นึงที่พินนี่เพิ่งได้ไปมา หลาย ๆคนเห็นภาพที่พินนี่โพสลง Instagram เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ประมาณวันที่ 10 กว่าๆ ให้คนอื่นอิจฉาเล่น :P ว่าพินนี่มีเคส iPhone 4 ที่เป็นรูปตัวเองได้ยังไง วันนี้พินนี่จะมาเฉลยกัน





งานที่พินนี่ได้ไปมาเป็นงานที่ชื่อว่า "พิมพ์สนุก กระตุกไอเดีย ชิ้นเดียวในโลก ด้วยหมึกแท้ เอชพี" จัดที่ ร้าน Moulin (อ่านว่ามู-แลง เป็นภาษาฝรั่งเศส) Siam Discovery ชั้น  6A (ขอบอกว่าร้านน่ารักมาก โซฟานิ่มโค่ดๆ อาหารและขนมอร่อยค่ะ ถ้ามีโอกาสจะแวะไปอีก ติดใจมาก) งานจัดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ เห็นรูปน้องหมีด้านบนที่พินนี่โพสไว้หรือเปล่าคะ พินนี่เดินเข้ามาที่หน้าร้านมูแลงก็เจอเลย ซึ่งหมีตัวนี้เค้าแจกบล็อกเกอร์ทุกคนเลยค่ะ : ) ตุ๊กตาตน่ารักมาก ใส่ถ่านแล้วขยับดุ๊กดิ๊กได้ด้วยล่ะค่ะ > <






ผลไม้หวานมากอร่อยมากค่ะ ปลื้ม





บราวนี่อร่อยดี แต่เนื้อร่วนไปนิด


ขอบอกว่า Cheese Cake ที่อยู่ถาดบนอร่อยโลกลืมมากๆ ค่ะ
มองไปรอบๆ ก็จะเห็นของน่ารักๆ มากมายค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์ทีทำการตกแต่งด้วยวิธี De coupage เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าการตัดแปะ ที่เราๆ เรียกกันว่า "เดคูพาจ" นั่นล่ะค่ะ เดคูพาจ เริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทยมาซักระยะแล้วค่ะ เนื่องจากว่าสามารถนำมาตกแต่งและประยุกต์ได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งเคสโทรศัพท์มือถือ , กระเป๋าเงิน, สมุดโน้ต, กระเป๋าสาน ฯลฯ เยอะมากเลย แถมวิธีการก็ไม่ได้ยากอีกด้วยค่ะ








โดยภายในงานก็มีการสอนให้บล็อกเกอร์ได้ลองทำ เคสโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเองกันด้วยค่ะ เก๋มากๆ เพราะสามารถใช้รูปของตัวเองได้ด้วย ในงานจะมีปริ้นท์เตอร์ให้ สามารถปริ้นท์ลงบนกระดาษได้เลย








กระดาษอันนั้นพินนี่ขอเรียกว่า ทิชชู่แล้วกัน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร มันคงเป็นทิชชู่นั่นแหละ แต่อาจจะเป็นทิชชู่ที่มีเนื้อเหนียวหน่อยละมั้งคะ วิธีการก็ไม่ยากค่ะ แค่
  • เลือกรูปภาพที่ต้องการแล้วสั่งปรินท์ด้วยหมึกพิมพ์ของ HP
  • เมื่อได้ภาพที่ปรินท์ลงบนกระดาษแล้วก็รอให้มันแห้งนิดนึงก่อนที่จะลอกแผ่นกระดาษาชั้นบนสุดออก (ปกติมันจะลอกได้ประมาณ 3 ชั้น)
  • เลือกเคสสีขาวหรือสีใส ที่ต้องการเอามาทากาว (เฉพาะ ห้ามใช้กาวลาเทกซ์) เอากาวทาที่เคส นะคะไม่ใช่ที่ตัว กระดาษเพราะกระดาษมันบางมาก ทาลงไปได้มียุ่ยเยินชัวร์
  • เสร็จแล้วเอากระดาษที่เราเลือกไว้ นำลงมาทาบค่ะ กะระยะให้ดีๆ ให้ลายมันออกมาเป็นแนวสวยๆ นะคะ อย่าให้เว้าแหว่งมาก เดี๋ยวจะไม่สวยค่ะ เพราะมันจะมีส่วนที่เราต้องตัดออกด้วยเช่น ส่วนที่เป็นกล้องถ่ายภาพ รูนั้นต้องตัดค่ะ ค่อยๆ ทาบแล้วรีดไปเรื่อยๆ ให้เรียบๆ นะคะ
  • เสร็จแล้วเอาไดร์เป่าผมเป่าหน่อยค่ะ ช่วยให้แห้งเร็วขึ้น
  • เสร็จแล้วตัดขอบส่วนเกินออกค่ะ โดยที่ต้องเหลือขอบออกมาจากตัวเคสประมาณ 1-2 ซม. เพื่อให้เก็บขอบงุ้มเข้ามาด้านในได้ค่ะ
  • พอแห้งเมื่อไหร่ก็ทาตัวเคลือบนะคะ แล้วรอให้แห้งอีกครั้งเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
เห็นไหมคะ ว่าง่ายยยยยยยยมากกกกก แถมออกมาสวยงามอีกต่างหาก : ) มาดูบรรยากาศเหล่าบล็อกเกอร์ นั่งง่วนทดลองทำเคส De coupage ของตัวเองกันดีกว่าค่ะ : )



อุปกรณ์พร้อมแล้วจ้าาาาาาา  มาเริ่มกันเลย


แปะๆๆๆ เข้าไป


แล้วก็รีดให้เรียบร้อยซะ


ส่วนเธอคนนี้ กำลังตั้งใจทากาวอยู่อย่างแน่วแน่


ในขณะเดียวกันกับที่เธอคนนี้ ทั้งแปะทั้งรีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว 55
ผู้หญิงสองคนนี้ตั้งใจเรียนอย่างมากค่ะ ส่วนผลงานเป็นยังไง ไม่ทันได้เห็นเพราะกลับก่อน 555555


ส่วนอันนี้เป็นอันที่เป็นตัวอย่างที่เค้าทำเอาไว้แล้ว สีสวยเนอะ น่าร้ากกกกกกก


และสำหรับเหตุผลว่าทำไมมันถึงออกมาสวยขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่า กระดาษที่ใช้เป็นกระดาษชนิดพิเศษที่ใช้ เทคโนโลยีแบบ Colorlok ค่ะ ล็อกไว้ไม่ให้สีมันไหลและติดทนนาน เคล็ดลับสำคัญคือการปริ้นท์ภาพที่คมชัดและสีให้ออกมาเป็นธรรมชาติเหมือนของจริงมากที่สุด สีสัน จางน้อยที่สุด เพราะเคสโทรศัพท์มือถือเนี่ยเราต้องจับมันบ่อยๆ ทั้งเหงื่อ ทั้งน้ำ อาจจะทำให้สีมันจางไปได้แบบไม่รู้ตัว ดังนั้นการใช้ Original Ink หรือหมึกแท้ จะมีส่วนช่วยมากค่ะที่จะทำให้สีที่ได้เป็นสีที่ดูสวยสมจริง และติดทนนาน แถมที่สำคัญ หมึกที่ว่านี้ ยังกันน้ำได้ด้วยค่ะ ! ดังนั้นไม่ต้องกลัวหมึกจะไหลเยิ้มเพราะเลอะน้ำอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะเค้าใช้เทคโนโลยี well-engineered Ink ค่ะพัฒนาความแห้งของหมึกเพื่อทำให้สีที่ได้ไม่ไหลไปผสมรวมกันนั่นเองค่ะ : ) น่าสนใจใช่มั้ยล่ะคะ

อยากได้เคสทำมือ เดคูพาจ เป็นของตัวเองชิ้นเดียวในโลกกันมั้ย?

นอกจากพินนี่จะได้มีโอกาสลองทำ เคสเป็นของตัวเองแล้ว พินนี่ก็ไม่อยากจะสนุกอยู่คนเดียว ดังนั้นงานนี้ HP ยังใจดีอยากช่วยให้แฟนๆ ของพินนี่ได้แก้เหงา แก้อาการเบื่อด้วยการมีเคสทำมือของตัวเอง รูปตัวเอง ผ่านการเล่นเกมส์อันนี้ค่ะ : ) HP ใจดีให้พินนี่มาตั้ง 4 รางวัลแหนะค่ะ กติกาก็ตามนี้เลยยยย

แจก 4 รางวัล!!!! กติกามีอยู่ว่า!!

 
  • พิมพ์อีเมล์ ด้านล่าง บทความนี้ (จะมีเป็น facebook comment อยู่พิมพ์ลงไปได้เลยค่ะ เอาไว้สำหรับให้พินนี่ติดต่อกลับเวลาจะรับรางวัลนะคะ)
  • พร้อมกับตอบคำถามว่า เทคนิคการทำเคสทำมืออันนี้เรียกว่าเทคนิคอะไร? (สามารถตอบเป็นภาษาอังกฤษ / ฝรั่งเศส หรือภาษาไทยก็ได้ตามแต่จะถนัดเลยค่ะ)
  • ผู้มีสิทธิ์ได้รางวัลคือ คนที่เป็นสมาชิกอยู่ใน Fanpage http://www.facebook.com/pinnynoy เท่านั้น
  • Share บทความนี้บน หน้า wall ของคุณโดย set เป็น public
เห็นไหมไม่ยากเลยน้าาา ถ้าใครอ่านมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบรับรองว่าตอบได้แน่นอนค่ะ

  หมดเขตตอบคำถาม : ไม่เกินเที่ยงคืนของวันที่ 5 กันยายน 2555
  ประกาศผล : ภายในวันที่ 8 กันยายน 2555 จะประกาศผล ในบล็อก Pinnyforever.com และแฟนเพจ http://www.facebook.com/pinnynoy เท่านั้นค่ะ 

สำหรับการตัดสิน พินนี่ขออนุญาตสุ่มรางวัลเองนะคะ (นับเฉพาะคนที่ตอบครบทุกข้อ)  

สำหรับผู้ที่ชนะ

สำหรับคนที่ชนะนะคะ พินนี่จะติดต่อกลับทางอีเมล์ที่ได้แจ้งเอาไว้ค่ะ โดยสิ่งที่คุณต้องเมล์กลับมาบอกพินนี่คือ
  • ชื่อ นามสกุล
  • ที่อยู่ในการจัดส่งของ
  • รูปภาพที่ต้องการใช้ในการทำ de coupage บนเคส ( ไม่ต่ำกว่า 1 MB ไม่งั้นภาพจะแตกมากค่ะ)
  • บอกรุ่นโทรศัพท์ที่คุณใช้อยู่ตอนนี้ เพื่อที่จนท.จะได้เลือกเคสมาทำให้ได้ถูกรุ่นค่ะ
รบกวนติดต่อกลับพินนี่ภายใน 48 ชม. หลังจากพินนี่ประกาศผลนะคะ หากเลยไปจากนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ และพินนี่จะเลือกคนถัดไปมาแทนนะคะ วันนี้ขอลาไปด้วย ภาพหมู่ :) ในงาน รีบๆ ส่งกันเข้ามาเยอะๆ นะคะ รอแจกอยู่น้าาา ตั้ง 4 รางวัลแหนะ : )




[ รีวิว ] ไร้สิว ไร้ริ้วรอย ไปกับ SMOOTH E Baby Face Foam (NIS)



** Advertorial **

เมื่อนานมาแล้วพินนี่เคยได้รีวิวผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของ Smooth E นั่นคือ ตัว Smooth E Baby Face Gel [ สามารถคลิ๊กอ่านได้ ที่ บทความ SMOOTH E BABY FACE GEL สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ] ซึ่งจากตอนนั้นจนตอนนี้ พินนี่ก็ใช้ สูตรเจลนี้มา 3 หลอดแล้วค่ะ ชอบมากใช้แล้วหน้าเด้งดึ๋งสุดๆ นุ่มนิ่มน่าจับมากๆ
หนนี้พินนี่กลับมารีวิว Smooth E อีกครั้ง :) ยอมรับตรงๆ ว่าติดใจผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของ Smooth E เพราะซื้อใช้เป็นประจำติดต่อกันหลายหลอดแล้ว เพียงแต่หนนี้ไม่ใช่สูตรเจลแบบคราวก่อนแล้วค่ะ คราวนี้มากับสูตร "โฟม" เป็น Smooth E Baby Face Foam สูตร NIS หรือ Non-ionic 100% แบบไม่มีฟอง ไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างที่สามารถก่อให้เกิดสิวและริ้วรอยด้วยค่ะ

ทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่า เจ้าโฟมล้างหน้าตัวนี้ ช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดสิวและริ้วรอย ดูแลใบหน้า อ่อนเยาว์ (หากใช้เป็นประจำต่อเนื่อง) และยังมีวิตามิน อี บริสุทธิ์ (Nature Vitamin E) หนึ่งในวิตามินหลัก ที่ทำหน้าที่ช่วยชะลอการเกิด ริ้วรอยเหี่ยวย่นหรือผิวขาดความยืดหยุ่น บำรุงเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดี ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์เป็นพิเศษหากใช้เป็นประจำ



นอกจากนี้แล้วทางแบรนด์ยังเคลมอีกว่าเจ้าโฟมตัวนี้
  • หลังจากล้างหน้าแล้วไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง
  • เหมาะกับทุกผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย (ซึ่งพินนี่ก็จัดอยู่ในจำพวกนี้ด้วยเหมือนกันคือผิวแพ้ง่าย)
  • สามารถช่วยลดสิว(ได้บ้าง)
  • ทำให้หน้านุ่มชุ่มชื้น เนียน และสะอาดขึ้น
  • ได้รับการรับรองและยอมรับจากแพทย์ผิวหนังและเภสัชกรในเรื่องของประสิทธิภาพ
  • เป็นโฟมที่ทำหน้าที่แบบ 3 in 1 คือ เป็น  cleanser, toner และ moisturizer ได้ในเวลาเดียวกัน
  • มีส่วนผสมของวิตามิน E ด้วยค่ะ
  • รู้สึกว่าผิวพรรณดีขึ้นได้ภายในครั้งแรกที่ใช้ (อันนี้ขอบอกว่าจริง(บ้างเป็นบางส่วน)
  • สามารถล้างออกได้โดยง่ายดาย
เหล่านี้คือสิ่งที่แบรนด์เคลมมาทั้งหมดค่ะ อันที่จริงพินนี่ค่อนข้างเป็นแฟนเหนียวแน่น(มาก) กับผลิตภัณฑ์ล้างหน้ายี่ห้อนี้ แบบที่บอกไปข้างบนอ่ะค่ะ ติดใจตั้งแต่มันออกมาใหม่ๆ เพราะตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นกับโฟมไม่มีฟอง เหมือนๆ กับที่ช่วงนึงพวกเราเคยตื่นเต้นกับผงซักฟอง หรือน้ำยาซักผ้าที่ไม่มีฟองนั่นล่ะค่ะ ต่อมาก็มี TVC เก๋ๆ ออกมาอีก กระแทกใจหลายคนมากช่วงนั้น ซึ่งพินนี่ก็ชอบนะ ชอบมากถึงขนาดไปตามซื้อเลยแหละ ไม่รู้ยังจำกันได้หรือเปล่า TVC ตัวนี้แอบเอามาให้ดู 555 ยังจำ พี่จุ๋ม แย้ กับพี่อ้อย กันได้หรือเปล่า ^^ตอนนั้นออกมาทั้งหมด 4 episodes เลยนะคะ พินนี่รอจะดู ทุก episode เลยถือว่าเป็นยุคแรกๆ ของการทำ Ads แบบมี to be continued และได้ผลมากโดนใจกันทั้งบ้านทั้งเมืองเลย

 
  แล้วก็หลังจากนั้นเป็นต้นมาพินนี่ก็ติดอกติดใจแบรนด์นี้มาก ๆ ถึงแม้ว่าตอนนั้นซื้อมาใช้แล้วก็รู้สึกแปลกๆ กับการที่โฟม(อะไรฟระ) ทำไมมันถึงไม่มีฟอง เอาล่ะมาเข้าเรื่องของเรากัน อิอิ ตัวที่พินนี่ได้มาเป็นตัว Smooth E Baby Face Foam แบบ Non-ionic (NIS 100%) ซึ่งมีส่วนผสมที่เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ อ่านแล้วงง มึน และเบลอ 5555+ แต่มันคงไม่เกินความพยายามของสาวๆ อยากสวยแบบเรา เพราะงั้นอ่านหน่อยแล้วกันค่ะ เพราะจริงๆ ไม่ว่าเราจะใช้อะไรก็ตาม หรือกินอะไรก็ตามเราควรศึกษา Ingredient หรือส่วนประกอบของมันด้วยนะคะ อันนี้เผื่อไว้ในกรณีที่รู้ตัวว่าเป็นคนแพ้ง่ายจะได้คอยสังเกตได้ด้วยว่าเราแพ้อะไรแล้วจะได้เลี่ยงได้อย่างถูกต้องค่ะ

ส่วนประกอบ

  • Distilled Water
  • Coco-Glucoside
  • Decyl Glocoside
  • Cocamidopropyl Betaine
  • Propylene Glycol
  • Butylene Glycol
  • Glycol Distearate
  • Glyceryl Stearate
  • Cyclomethicone
  • Fragrance
  • Rosa Canina Seed Extract
  • Triticum Vulgare (Wheat) Germ Oil
  • Anthemis Nobilis Flower Oil
  • Tocopherol
  • Phenoxyethanol
  • Methyl Paraben
  • Ethyl Paraben
  • Isobutyl paraben
  • Butyl paraben
  • Propyl Paraben
ส่วนประกอบเยอะจนมึนไปหมดใช่มั้ยคะ ช่างมันไปก่อน 555555 เราอ่านเพื่อเก็บเป็นความรู้ ต่อไปนี้จะเป็นการรีวิว ซะทีค่ะ :) แฮ่ มาเริ่มกันเลย

พินนี่เปิดฝาออกมาแล้วบีบ ปรื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ออกมาได้เป็นเส้นๆ ที่มีความแน่นพอควรค่ะ ลงบนฝ่ามือ เพื่อให้เห็นกันชัดๆ บีบออกมาเยอะได้อีก จริงๆ เวลาล้างไม่ต้องใช้เยอะมากขนาดนี้นะคะ บีบมาเฉพาะแค่ที่ปลายนิ้วก็พอค่ะ



จากนั้นก็นำโฟมที่เราบีบออกมาเป็นเส้นๆ นี่ล่ะ นวดวนๆ บนใบหน้าซักพัก ค่ะ อย่าลืมเก็บผมให้เรียบร้อยด้วยน้าา ไม่งั้นจะเลอะเทอะไปหมดเลย ใช้แบบพินนี่ก็ได้ค่ะ เป็นคล้ายๆ ที่คาดผมใช้ดีเหมือนกัน ตาม Watsons หรือ Boots หรือ Supermarket ก็มีขายค่ะ ราคาไม่เกิน 100 บาทใช้ดีเชียว หลังจากนวดเสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ซักครู่ค่ะ การนวดไปนวดมาเป็นการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้าด้วยนะคะ จะทำให้ใบหน้าเหมือนได้ออกกำลังกาย(บ้างนิดหน่อย)  


หลังจากนวดวนๆ ซักพักก็ล้างหน้าออก ด้วยน้ำสะอาดได้เลยค่ะ ช่วงนี้แหละที่เป็นช่วงที่ใครๆ หลายคนจะสัมผัสได้ว่า "ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ" เพราะการล้างออกยากหรือง่ายถือเป็นจุดสำคัญสำหรับใครหลายๆ คนเพราะ ถ้าล้างยาก รู้สึกล้างเท่าไหร่ก็ไม่สะอาดซักที หลายๆ คนก็เลือกที่จะไม่ซื้อใช้ดีกว่า ซึ่งสำหรับพินนี่แล้วมันก็สะอาดพอควรเลยค่ะ เพียงแต่เมื่อเปรียบเทียบกับแบบเจล พินนี่ชอบ Feeling แบบนั้นมากกว่า อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลด้วยนะพินนี่ว่า


  ล้างหน้าเสร็จแล้วก็อย่าลืมซับหน้าด้วยผ้าขนหนูด้วยนะคะ โดยการ "ซับ" อย่างเบามือนะคะ ไม่ใช่เอามาถูๆ แรง ๆ หน้าเหี่ยวหมด เท่านี้เราก็จะได้หน้าสวยใส ไร้ริ้วรอยแล้วล่ะค่ะ

สรุปผลการทดลองผลิตภัณฑ์

สรุปแล้ว สำหรับตัวพินนี่เอง เรื่องกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบนี้พินนี่ชอบนะ แต่บางคนที่ไม่ชอบน้ำหอมเลยอาจจะไม่ชอบ และรู้สึกว่าไม่ใช่ค่ะ เรื่องความสะอาด สะอาดเลยล่ะ แต่จะมีบ้างที่รู้สึกว่าเอ๊ะ ชั้นล้างไม่สะอาดหรือเปล่า เพราะมันไม่มีฟอง เรามองฟองไม่เห็น ไม่รู้ว่าสะอาดหรือยัง ไม่รู้ว่าล้างหมดหรือยัง ก็พยายามล้างให้"ความลื่น" มันหมดไปนะคะ นั่นแปลว่าสะอาดแล้วค่ะ สำหรับส่วนตัวพินนี่แล้วพินนี่ชอบแบบมีฟองนะ เพราะโรคจิตชอบให้มีฟองเยอะๆ แต่อย่างแบบเจลที่เคยใช้มันก็ไม่มีฟองนะแต่ก็ชอบเหมือนกัน เพราะล้างหน้าเสร็จแล้วหน้าเด้งดึ๋งมากเลย เรื่องความขาว คิดว่าตัวนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะคะ ถ้าใครคิดว่าซื้อโฟมตัวนี้มาแล้วกะจะให้หน้าขาว ขอบอกว่าไม่เกี่ยวกันนะคะ เรื่องสิว มันไม่ใช่โฟมรักษาสิวจำเอาไว้ก่อนเป็นอย่างแรก แต่มันสามารถช่วยบรรเทาพวกสิวอักเสบได้บ้าง ย้ำว่าได้บ้าง เพราะว่ามันไม่ใช่ยาค่ะ เรื่องผิวพรรณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากใช้ครั้งแรกที่ทางแบรนด์ได้เคลมไว้ ขอตอบว่า อาจช่วยได้บ้างเรื่อง "ความเนียน" เหมือนมันจะทำให้หน้ารู้สึกเนียนๆ ขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่าดีมหัศจรรย์แบบเห็นชัดเจนขนาดนั้น คิดว่าถ้าอยากเห็นชัดเจนขนาดนั้น อาจจะต้องใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ค่ะ สุดท้ายนี้อยากให้จำไว้ว่า ไม่ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์ใดๆ มาใช้กับร่างกาย ใบหน้า หรือส่วนอื่นๆ อยากให้เลือกที่เหมาะกับเราจริงๆ เหมาะกับผิวพรรณของเราจริงๆ แล้วเราจะเห็นประสิทธิภาพของมันชัดเจนขึ้นค่ะ ของบางอย่างเหมาะกับบางคน บางคนใช้แล้วดี๊ดี บางคนใช้แล้วไม่ดีเลยก็มี

ดังนั้นจงเลือกที่เหมาะกับตัวเองดีที่สุดค่ะ เพราะสิ่งที่เหมาะกับคนอื่นไม่ได้แปลว่าจะเหมาะกับเราด้วย :) แล้วอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดในทุกๆ ครั้งและทุกๆ วันนะคะ จะได้มีผิวที่สวยใส และไร้สิวค่ะ :)


[ รีวิว & Swatch ] Miss Candy Collection Lipstick สุดหวานจาก L'oreal Paris


L'oreal Paris โดย Nutrishine ออก Collection ใหม่ค่ะ จริงๆเห็นมาซักพักแล้ว (ของที่อเมริกานะ) แต่มันยังไม่ไทยซักที สีสวยมากนะขอบอก :) แล้วก็ต้องขอขอบคุณทาง L'oreal ด้วยค่ะ ที่ส่งมาให้พินนี่ได้ลองใช้ สองแบบเลยคือ Miss Candy by Nutrishine และ แบบ Color Riche ค่ะ




ไม่พูดพร่ำทำเพลง พินนี่ขอเริ่มกันที่แบบ Color Riche ดีกว่าค่ะ ตัวนี้พินนี่ได้ Limited Edition มาสองสี คือ
  • เบอร์ 404 L'or Electric เป็นสีน้ำตาลประกายทอง (3.9กรัม)
  • เบอร์ 405 Hypnotic Rose เป็นสีชมพูอมแดง (3.9กรัม)

สี L'or Electric เป็นสีที่แปลกมากค่ะ เปิดแท่งออกมาตกใจเลยเพราะไม่เคยมีลิปสีนี้มาก่อนเลยในชีวิต สีดูโหดมาก แต่เอาเข้าจริงๆตอนทาออกมาที่ท้องแขนสีกลับไม่ค่อยออกเท่าไหร่ค่ะออกแต่ประกายวาาวๆ แทนค่ะ


สำหรับสี Hypnotic Rose พินนี่ว่าผู้หญิงหลายคนที่ชอบสีแรงๆ น่าจะชอบค่ะ สีแจ่มแมวมาก แรงและเม็ดสีชัดค่ะ ทาแค่รอบเดียวสีก็ออกจัดแล้วไม่ต้องขยี้ไม่ต้องทาซ้ำหลายๆรอบ เนื้อลิปเนียนโอเคเลยค่ะ ชอบมาก

ส่วน Miss Candy by Nutrishine พินนี่ได้มาทั้งหมด 5 แท่งด้วยกัน สีน่ารักหมดเลยค่ะ แล้วกลิ่นก็หอมมาก แค่หมุนลิปออกมาเปิดฝาทิ้งไว้จะถ่ายรูปแต่กลิ่นหอมอ่อนๆหวานๆเหมือนขนมมันก็ลอยมาเลยดมแล้วหิวชะมัดเลยค่ะ 555  เค้ามีคอนเซปของลิปนะคะ คือบำรุงแบบ lip balm ทาแล้วสีสดใสแบบ Lip color แต่ฉ่ำวาวแบบ Lip Gloss ค่ะส่วนสีที่ได้มาก็ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
  • 503 Miss Mashmellow ชมพูอ่อน กลิ่นวนิลลา
  • 504 Miss Caramel น้ำตาลอ่อน หอมน้ำตาลไหม้คล้ายกลิ่นคาราเมล
  • 505 Miss Strawberry ชมพูน่ารัก กลิ่นสตรอเบอร์รี่รสนม
  • 506 Miss Orange สีส้มสดใส หอมกลิ่นเปลือกส้ม
  • 507 Miss Raspberry สีชมพูเข้ม กลิ่นหอมสดชื่อผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

มาเริ่มที่สีแรกกันค่ะ Miss Mashmellow 503 สีนี้เป็นสีชมพูนม ๆมองจากแท่งสีสวยมากค่ะ ทาบนท้องแขนก็สวยค่ะ แต่มันไม่ได้ครีมมี่ นะคะ ลิปเซ็ตนี้ทั้งเซ็ตออกจะบางเบาหน่อยค่ะ ต้องทาทับๆหลายๆรอบสีถึงจะออกชัดเจน ถ้าให้ดีปาดออกมาแล้วเอาพู่กันขยี้จะได้สีที่แน่นและชัดขึ้นนะคะ ข้อควรระวังของสีนี้คือ คนผิวขาว หรือขาวเหลืองทาแล้วจะป่วยมากเหมือนไม่สบาย เสียดายจังชอบสีนี้มากแต่ทาแล้วป่วยบรรลัยฮะพี่น้อง T-T


สีถัดมาเป็นสี  Miss Caramel 504 ค่ะ สีนี้ออกน้ำตาลคาราเมล สีก็นู้ดๆ ค่ะ ทาแล้วกลบสีปากได้อยู่นะ เหมือนทาคอนซีลเลอร์ แนะนำให้ใช้คู่กับ tint ทาด้านในจะดูสวยดีค่ะ ลองมาแล้วเวิร์คอยู่


ถัดมาเป็น Miss Strawberry 505 หนึ่งในสีที่พินนี่ชอบที่สุดค่ะ สีสวยมาก ชมพูสดใสน่ารักทาแล้วไม่ป่วยด้วยค่ะ แต่ก็เหมือนเดิมนะต้องทาย้ำ ๆ สุดท้ายลงอีหรอบเดิมคือ เอาแปรงมาขยี้ๆ ดีกว่าสีออกชัดกว่าค่ะ


ถัดมาสีแรงเจ็บๆ บ้างที่ Miss Orange 506 สีนี้เป็นสีที่ชอบมากอีกสีนึงค่ะ สีมันชัดนะ ถึงแม้จะสู้ตัว Hypnotic Rose ไม่ได้แต่สีก็เจ็บใช้ได้ เอาไว้ใช้เวลาอยากแต่งหน้าแบบมีสีสันเปรี้ยวๆ บ้างอะไรบ้าง :) เอามา rouge ทาแก้ม ก็สีสวยค่ะ


สีสุดท้ายคือ Miss Raspberry 507 ค่ะ สีนี้ สีชมพูเข้มๆ ภาษาแม่พินนี่ก็จะบอกว่าสีออกบานเย็น ทาแล้วก็จะดูุลุคผู้ใหญ่ๆ หน่อยค่ะ เรียบร้อย อ่อนหวานแบบ ผู้ดีๆ นะ อันนี้ก็ชอบอยู่แต่คงไม่ค่อยได้มีโอกาสทาสีนี้เท่าไหร่อาจจะยกให้คุณแม่ค่ะ :)


มาดู Swatch สีกันชัด ๆเนอะ


ส่วนรูปที่ทาที่ปากจริงๆ ให้เห็นสีบนปากขอติดไว้ก่อนน้า พอดีพินนี่เพิ่งได้มาวันนี้ ยังไม่ได้มีเวลาเอามาทาที่ปากครบทุกสีเลย 555 เดี๋ยวภาพเพิ่มเติมจะมาอัพเดทจ้ะ ขอแปะโป้งไว้ก่อนเนอะ :) ใครสนใจคอลเลคชั่นนี้ ยังไงแนะนำให้ไปยืนๆลองก่อนนะคะ เพราะบางทีเห็นบนแท่งแล้วสวยจังแต่พอทาจริงๆอาจจะไม่ใช่แบบที่เราอยากได้อ่ะค่ะ บางทีอยากได้เนื้อแมทๆ ตัวนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ก็ได้ แถมบางสีสวยก็จริงแต่ไม่เหมาะกับบางสีผิวค่ะ แต่ตัวนี้ราคาไม่แพงนะคะ ใครสนใจก็ลองไปเดินดูกันได้ ราคาแท่งละ 399 บาทเท่านั้นเองค่ะ ลิปสีสวยๆ เนื้อดีๆ ราคาเท่านี้ น่าสอยเน้อออ


Disclaimer : L'oreal ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ลองค่ะ ไม่ได้รับเงินในการรีวิวค่ะ
Alll rights reserved : Pinnyforever.com. Powered by Blogger.

up