[ รีวิว ] เป็นสิวดีนัก ต้องหาวิธีกำจัดด้วย PAPULEX® OIL-FREE CREAM

 




** Advertorial Content**   

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากบริษัท INVIDA มาให้รีวิวค่ะ :) Product ตัวนี้ชื่อ Papulex อ่านว่า พาพูเล็กซ์ เป็นแบบชนิดครีม ที่ปราศจากน้ำมัน (ซึ่งดีมากเพราะพินนี่ไม่ถูกกับอะไรที่เป็นน้ำมัน แต่จริงๆ ก็ไม่ค่อยถูกกับประเภทครีมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะถูกกับประเภทเจลมากกว่า) แต่ก็นับว่าส่งมาให้ถูกที่ถูกเวลาพอดีค่ะ เพราะช่วงรับปริญญาพินนี่แต่งหน้าหนามาก แล้วต้องสู้แดด ตากเหงื่อทั้งวันกลับมาก็สิวเต็มหน้าเพราะหน้าไมไ่ด้พักผ่อนไม่ได้มีเวลาดูแลมาก แล้วก็อาจจะล้างหน้าไม่สะอาดด้วยสิวเลยขึ้นตรึม มีสิวให้ได้ลองกันพอดี 555
 

มาดูส่วนประกอบของตัวยากันก่อนดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง (เอา่มาจากข้างกล่องนะ) Nicotinamide 4% Anti-Bacterial Adhesive substance (ABA) 1% Zinc PCA 1% Mattifying agents 7%

 
ส่วนผสมอันยาวเหยียด = ="
 
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ : http://www.papulex.com/care-products.html#p-1087-infos  

วิธีการใช้

ทาครีมลงไปในบริเวณที่มีปัญหา เช่น หน้า หลัง หน้าอก หลังจากทำความสะอาดแล้ว เช้ากับเย็น นวดวนๆ จนครีมซึมลงไปในผิวหนัง

Papulex ช่วยในเรื่องอะไรได้บ้าง?

Papulex เป็นเวชสำอางค์ที่ใช้ดูแลรักษาผิวที่เป็นสิวตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดสิวค่ะ โดยข้อดีของมันคือสามารถใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับยารักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆได้ด้วยค่ะ ซึ่งอันนี้พินนี่ขออนุญาตใช้วิธีทา Papulex เดี่ยวๆ ไม่ทาร่วมกับผลิตภัณฑ์ใดๆ เลยเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของมันจริงๆ ว่าใช้เดี่ยวๆ ผลที่ได้จะออกมาเป็นยังไง จะได้ไม่ไปสับสนกันด้วยว่าตกลงที่มันดีขึ้นเป็นเพราะ papulex หรือเป็นเพราะอย่างอื่น ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ จึงเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการที่ใช้ papulex เพียงอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ  

 Papulex ช่วยต่อสู้กับ สิวได้ยังไงบ้าง?

Papulex เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเพื่อคนที่มีผิวหนังไวต่อการเกิดสิวโดยเฉพาะค่ะ และ ส่วนผสมหลัก 3 อย่างของ Papulex ก็ทำงานแตกต่างกันไปแต่เป็นตัวที่ช่วยในการยับยั้งควบคุมไม่ให้เกิดสิวนั่นเอง เช่น Nicotinamide, ช่วยลดการอักเสบของสิว โดยมีงานวิจัยรับรองว่า Niacinamide ปริมาณที่ใส่ใน Papulex ให้ประสิทธิภาพในรักษาสิวอักเสบได้ดีเทียบเท่ากับยาปฏิชีวนะ Clindamycin 1% ที่ใช้ในการรักษาสิว หรือ Zinc PCA ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า โดยลดการผลิตไขมันที่มากเกินไปจากต่อมไขมัน ลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันและช่วยลดความมันบนใบหน้า และ antibacterial substance (ABA) เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของ Papulex ที่ได้รับการรับรองจากยุโรป ช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว (P. Acne bacteria) โดยป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเกาะกับผิว โดยไม่ได้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่ทำให้เกิดการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย (ซึ่งการดื้อยานี้ พบมากจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ในการทำฆ่าเชื้อแบคทีเรียและรักษาสิวอักเสบ) นั่นเองค่ะ   ตัวที่พินนี่ได้มาคือตัว OIL FREE CREAM ซึ่งเป็น
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ปราศจากน้ำมัน มี Mattifying agent ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวผสมค่ะ
  • ช่วยบำรุงผิวโดยไม่ทำให้หน้ามัน พร้อมจัดการกับปัญหาสิวที่ต้นเหตุ โดยลดการอักเสบของสิว ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสำเหตุของสิว ช่วยควบคุมและลดควำมมันส่วนเกินบนใบหน้าแบบที่บอกไปแล้วข้างต้น ค่ะ :)
  • มีการวิจัยรับรองว่า Papulex oil free cream มีประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาสิวทุกชนิด และมีความปลอดภัยในการใช้แ่น่นอน (เขาว่าแบบนั้น เพราะบริษัทที่ทำเป็นบริษัทยาเองเลย และผลิตภัณฑ์นี้จำหน่ายแต่ในรพ.และคลีนิกเท่านั้นค่ะ)
  • ไม่ทำให้เกิดการแพ้แสง ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ได้รับการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยเฉพา่ะ
ตัวนี้ผลิตที่ Sinclair Pharma ที่ Paris ประเทศฝรั่งเศส นะคะ หน้าตาหลอดก็จะเป็นหลอดยาวๆ แบบนี้ มีปริมาณ 40ml. ค่ะ

 

ฝาเป็นแบบหมุนเกลียวค่ะ เปิดฝาออกมาก็จะมีฟอยด์ สีเทาปิดรูหลอดอยู่ต้องดึงออกก่อนจึงจะบีบครีมมาใช้ได้

 
 

ลักษณะครีม

ลักษณะครีมเป็นแบบสีขาวขุ่นไม่หนักมาก เบาๆ ค่ะ เหมือนมีน้ำผสมอยู่

 

กลิ่น

กลิ่นไม่มีนะคะ ไม่มีกลิ่นน้ำหอมเพราะว่าไม่ใส่น้ำหอมแต่จะมีกลิ่นยาๆ จืด ๆ โผล่มาแทน จะเข้าใจกันไหมอ่ะ กลิ่นจืดๆ= ="  

สัมผัส

ส่วนฟีลตอนได้สัมผัสเนื้อครีมจะเป็นแบบ บางเบา เกลี่ยง่ายมาก เลยค่ะ  

การซึบซาบเข้าสู่ผิวหนัง

วนๆ ไม่กี่ทีก็ซึมเข้าผิวหนังแล้วค่ะ ที่สำคัญ ไม่เหนียวเหนอะด้วย เพราะปกติครีมทั่วไปเนื้อครีมจะหนักถึงจะนวดวนๆ แล้วก็ยังเหนียวๆ อยู่แต่อันนี้ไม่เป็นค่ะ นวดวนๆ ลงพอมันซึมแล้ว ผิวหนังจะลื่นๆ เหมือนไม่ได้ทาครีมอะไรลงไปค่ะ   ให้ดูสภาพหนังหน้าแบบไม่มีการใช้เครื่องสำอางแต่อย่างใดจะพบว่าหนังหน้าเยินมากค่ะ - -" (กรุณาสวด ชินบัญชรซักหลายๆ จบก่อนดูรูปข้างล่างนี้ เพราะหลอนมาก ย้ำ !หลอนมาก - -")

 

สังเกตจากรูปจะเห็นชัดว่าพินนี่มีปัญญาพวกสิวที่คาง แบบสิวฮอร์โมน เป็นหลัก จะเห่ออยู่เรื่อยๆ ตามอัตภาพ และยถากรรม เป็นเวรเป็นกรรมที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่เคยหายซักที น่าจะต้องไปรักษาที่ต้นเหตุคือ พวก ระบบฮอร์โมนมากกว่า เพราะแบบนี้ถึงมีปัญหาเรื่องประจำเดือนอยู่บ่อยๆ เพราะฮอร์โมนไม่ปกตินั่นเองค่ะ แต่สภาพที่มันเยินได้มากขนาดนี้ ลามไปแก้ม กับปีกจมูกด้วย เป็นเพราะ คงล้างหน้าไม่สะอาดช่วงรับปริญญาด้วยนั่นล่ะค่ะ เลยเห่ออนาถได้ขนาดนี้ 

ลองมาเกือบ 2 สัปดาห์ ก็พบว่า โอเคใช้ได้เหมือนกันนะ สิวที่ผุดขึ้นมาตรงคางและปีกจมูกยุบลงบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้ยุบทันใจแบบฉีดสิวแต่ก็ ใช้เวลาประมาณ 4-5 วันในการที่ยาตัวนี้จะทำให้สิวยุบ เพราะจริงๆ พินนี่ว่า ตัวนี้มันออกแนวครีมบำรุงผิวมากกว่าที่จะเป็นยารักษาสิว แบบว่า ป้องกันก่อนจะเกิดสิวอะไรแบบนั้น แต่ก็มีฤทธิ์ในการช่วยเรื่องสิวด้วย มันเลยผลออกมาเป็นแบบนี้ :) แต่ก็ถือว่าสภาพออกมาโอเคใช้ได้เลยนะ :) ภาพด้านล่างคงให้คำตอบได้ดีที่สุด


โดยรวมพินนี่ชอบนะ คะ ในเรื่องของประสิทธิภาพ แต่ก็ขอพูดตามจริงว่า มันติดตรงที่หาซื้อยาก เพราะมันจำหน่ายในรพ.ชั้นนำ และราคาก็ไม่ได้ถูกเลย ประมาณ 1,200 บาท ต่อ 1 หลอดค่ะ ซึ่งราคาจำหน่ายจริงๆ แล้วก็จะต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาลด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ที่อยากฝากไว้คือ "เืมื่อใดที่ผิวพรรณคุณมีสุขภาพที่ดีแล้ว ความมั่นใจคุณก็จะมาเองค่ะ " Great Skin , Great Confident นะคะ :) บ๊ายบาย พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ :)

 ปล. ภาพหนังหน้า ถ่ายคนละเวลากันและแสงคนละแบบค่ะ สีเลยออกมาไม่เหมือนกัน

ภาพ Before : ถ่ายภาพตอนกลางคืนและเป็นแสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
ภาพ After : ถ่ายภาพตอนเช้า(กลางวัน) และเป็นแสงจากแสงธรรมชาติที่ผ่านหน้าต่างมาค่ะ

รีวิว ใครติดขนตาไม่เก่งมาทางนี้ เรามีตัวช่วยติดขนตาแล้ว ด้วย Tuke matuge fake lashes clip

 

 หลายคนที่ติดขนตาไม่เก่ง (แบบพินนี) อาจจะมีตัวช่วยกับเขาบ้างแล้วค่ะ มันช่วยได้จริงๆ นะคะ จากเมื่อก่อนพินนี่ใช้เวลาในการติดขนตาข้างละ เกิน 5 นาที แต่พอได้เจ้านี่มาลดเหลือข้างละ ไม่ถึง 10วินาทีค่ะ จริงๆ เจ้าคลิปช่วยติดขนตาปลอมอันนี้มีมานานแล้วนะ แต่พินนี่เองเิพิ่งจะมีโอกาสไปซื้อมาใช้ ค่ะ เจ้าคลิปที่ว่านี้ มีชื่อเก๋ๆ เป็นภาษาอังกฤษว่า  

Kai KQ Tuke-Matuge Fake Eyelash Clip

มีหลายสีนะคะเท่าที่เห็นในเว็บมีถึง 3 สีด้วยกัน เขียว ฟ้า และชมพู  
ที่มา : http://makeupforlife.net



วิธีการใช้งาน

ก็ง่ายๆค่ะ ทำตามนี้ได้เลย
  • นำเอาขนตาปลอมวางไว้ ที่ตัวที่เป็นครึ่งวงกลมคว่ำลง ไว้สองอันตามภาพ
  • เอาตัวหนีบที่เป็นคลิป หนีบขนตาขึ้นมา
  • ทากาว รอให้แห้งซักพัก
  • ติดไปที่ตา แล้วปล่อยคลิปออก ขนตาจะติดอย่างงดงามค่ะ :)
    

พอดีไม่ได้ถ่ายของตัวเองไว้ (แถมตอนนี้ดวงตาป่วยเป็นภูมิแพ้ไม่สามารถติดขนตาปลอมได้นะคะ) เลยขออนุญาติยืมรูปจากเว็บ http://makeupforlife.net/ มาให้ดูกันแทน ค่ะ  (รูปด้านล่างนะคะ) สามารถเข้าลิงค์ตรงได้ที่ http://makeupforlife.net/2006/07/how-to-apply-false-lashes.html นะคะ

 

แต่ติดเสร็จแล้วก็จะออกมางดงามมมมมมมมพริ้วไหวเช่นนี้ค่ะ


และสำหรับใครที่สนใจ คลิปช่วยติดขนตาปลอมอันนี้นะคะ พินนี่ซื้อที่ สยามพารากอน ตรงชึ้น 1 โซนพวกที่ขายถุงน่องกับพวก อุปกรณ์ความงาม ในโซนของ พารากอนเลยค่ะ ชั้นเดียวกับน้ำหอม เครื่องสำอาง นั่นละค่ะ พินนี่ซื้อมา 260บาท ค่ะ ใครสนใจลองไปเดินดูนะคะ

Buying Place: 1st Floor  Beauty Hall Siam Paragon
PRICE: 260 THB

รีวิว Nail Polish ยี่ห้อ ESSIE ยาทาเล็บสุดโปรดจาก อเมริกา


** CONSUMER REVIEW** 

ช่วงที่ผ่านมา หลายคนที่ติดตามพิินนี่ผ่าน facebook / twitterและ Instagram คงจะเห็นพินนี่เพลิดเพลินกับยาทาเล็บ ยี่ห้อนึง ที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่นัก แต่สีสวยมาก ค่ะ และเป็น Product line ที่ไม่ได้นำมาขายในเมืองไทยของ ยี่ห้อเครื่องสำอางดังที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ L'oreal :)
ยี่ห้อที่พินนี่กำลังพูดถึงคือ ยี่ห้อ ESSIE นั่นเองค่ะ พินนี่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องยาทาเล็บมากนักเนื่องด้วยปกติก็ทาเล็บน้อยมาก(ตั้งแต่ลาออกจาก เอมิเรตส์ก็ไม่ค่อยได้ทาเล็บอีกเลยแถมตอนนั้นก็ทาอยู่สีเดียวคือสีแดง) ปกติซื้อก็ซื้อแต่ O.P.I และ Zoda และ Skinfood และ Etude เป็นต้น

ESSIE สามขวดนี้ พินนี่ได้มาจากรุ่นพี่ที่อยู่อเมริกาแล้วเขาซื้่อมาฝากค่ะ เขาบอกว่าเราน่าจะชอบ อยากให้ลองใช้ดู ซึ่งทาแล้วกรี๊ดนะ เราชอบมันจริงๆ สีมันสวย ทน แล้วก็ทาง่าย โดยเฉพาะหัวแปรงไม่บาน หัวเล็กๆ ทำให้เราทาได้ง่ายขึ้นค่ะ ที่สำคัญคือกลิ่น ไม่ได้เหมือนรุนแรงเหมือนยาทาเล็บทั่วๆ ไปค่ะ มันแรงตอนเปิดฝาแต่หลังจากทาแล้วกลิ่นก็ไม่ค่อยมี แถมแห้งเร็วด้วยค่ะ นอกจากนี้แล้วยังไม่ทำให้เล็บเหลืองด้วย :) สาวๆ น่าจะปลื้มกันค่ะ
พินนี่ได้มาลองสามสีค่ะ คือสี
  • camera - a brilliant coral pink neon
  • lights - an electric pink neon
  • tart deco - chic and modern, this dreamy coral is an artistic burst of color.
 

รูปด้านบนเป็นรูปที่เอามาจากเว็บไซต์ตรงของ ESSIE ค่ะ ส่วนสองรูปด้านล่างเป็นรูปที่ถ่ายจากของจริงค่ะ เดี๋ยวพินนี่จะให้ดูสีจริงๆ ของมันค่ะ :) ด้านล่างนี้เป็นสามสีจริงๆ ที่ถ่ายจากกล้องของพินนี่เอง สีสวยนะคะ แต่อาจจะถ่ายมาไม่สวยเท่าในเว็บเขาเท่านั้นเอง ฝึมือถ่ายรูปห่วยค่ะ 555
 

 

รูปด้านล่างเป็นสีที่เห็นจากขวด แบบชัดๆ ค่ะ สามสีเลย
เมื่อทาออกมาผลที่ได้ก็คือ "สวย" :)
 
นอกจากสามสีด้านบนแล้ว ESSIE ก็ยังมีสีสวยๆ แบบอื่นๆ อีกมากมายค่ะ ทั้งแบบกลิตเตอร์ แบบด้าน แบบวิ้ง บลาๆๆ
 
ช่วงนี้ ESSIE เขามี Product ใหม่ออกมาด้วยนะคะ สีสวยมาก

แต่ Collection ล่าสุดนี่พินนี่ชอบมากค่ะ เพราะเป็นสีโทนพาสเทลแบบที่พินนี่ชอบ (ข้าพเจ้าคลั่งพาสเทลมากถ้าสนิทกันจะรู้ว่าเห็นเป็นไม่ได้ต้องเสียทรัพย์ทันที)


แถมตอนนี้เขามีเล่นเกมส์ชิง รางวัลเป็นรองเท้าแบบที่เห็นในรูปด้วยค่ะ ที่ Facebook ของ ESSIE :) เก๋มาก เป็นเปิดรูปภาพให้ตรงกับสีทาเล็บที่ให้มา ต้องเปิดให้ถูกภายในครั้งแรกด้วยนะ
ส่วนใครอยากกด LIKE Fanpage นี้เพื่อไปเล่นเกมส์หรือ อัพเดทดูสีทาเล็บสวยๆ สามารถเข้าไปได้ที่ http://www.facebook.com/Essie นะคะ

 

ใครมีสีไหนสวยๆ แวะมาอวดพินนี่บ้างนะคะ :)

รีวิว Baviphat บาวิแพ็ท แผ่นมาส์กหน้า Mask sheet สุดชุ่มฉ่ำ สไตล์เกาหลี

 
   
** CONSUMER REVIEW**
 หลายคนคงรู้จัก Baviphat หรือ บาวิแพ็ท หรือเรียกอีกอย่างว่า เบบี้เฟซ กันมาพอสมควร เป็นยี่ห้อที่มี line product เยอะใช้ได้เลยค่ะทั้ง Mask, tint, lip scrub, BB เยอะมาก จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือ Package ที่น่ารักกรี๊ดสลบ นั่นเองค่ะ   ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลรับปริญญา สำคัญมากที่เดียวที่จะต้องเตรียมผิวให้พร้อม พินนี่เองซื้อเจ้า Baviphat มาซักพักใหญ่แล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง พอดีสัปดาห์หน้าต้องรับปริญญากะเขาเหมือนกัน เลยต้องเตรียมผิวกันนิดนึงด้วยการ Mask หน้าให้ชุ่มชื้นเข้าไว้ ซื้อมา 5 กลิ่นค่ะ แต่จริงๆ เขามีหลายกลิ่นนะคะ พินนี่ซื้อ Strawberry , Avocado, Aloe, Lemon แล้วก็ Green tea มาค่ะ





จ่ายเงินซื้อมาเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่จำได้อย่างเดียวว่า หลงกล package น่ารักมันเนี่ยแหละเลยคว้ามา5กลิ่นเลย 5555555
เพิ่งลอง Strawberry ไปค่ะ เมื่อคืนนี้เองสดๆ ร้อนๆ อยากบอกว่า มันหอมเหมือนโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่เลยค่ะ แล้วก็ชุ่มฉ่ำมากๆ แต่แผ่นมันใหญ่มากจนไม่พอดีกับหนังหน้าเรา 5555



หลักการที่ถูกต้องในการ Mask หน้า ที่เคยเรียนรู้มาจาก การไปนวดหน้าที่ SKII เมื่อสองเดือนที่แล้ว >> อ่านบทความ SKII ได้ที่นี่ << คือ โปะไว้ประมาณ 15 นาทีพอค่ะ ห้ามเกินกว่านี้ ไม่งั้นความชุ่มชื้นที่เราควรจะได้รับ มันจะอารมณ์เหมือน facial sheet ดูดคืนกลับไปหมด


ฮ่าาาาดูจิ Facial sheet มันไม่พอดีกับหน้าเรา 55555 ครบ 15 นาทีแกะออกมาแล้ว เอาส่วนเกินที่ยังซึมลงไปไม่หมดเอามือนวดวนๆ ๆ ๆ ให้มันซึมลงไปในผิวนะคะ ส่วนจาก Facial Sheet ถ้ามันยังไม่แห้งมาก ก็เอาแผ่นมาถูกแขน ถูขา ถูึคอต่อได้ค่ะ ผิวชุ่มชื้นสุดๆ ไปเลยนะ

หลังแกะออกรู้สึกสดชื่นมากค่ะ นวดครีมเซรั่มอะไรลงไปก็เหมือนผิวจะรับพวกครีมได้ีดีทีเดียว ไว้จะลอง Facial sheet พวกนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจออันถูกใจจริงๆ อันนี้ถือว่ายังไม่ค่อยถูก ใจเท่าไหร่ค่ะเคยเจอที่ถูกใจกว่านี้มาแล้วแต่ลืมรีวิว 555 เดี๋ยวขอเวลาไปซื้อมาใหม่ก่อนนะ และ Baviphat ดีตรงราคาไม่แพงมากค่ะ พูดถึงคุณภาพกับราคาก็ไปกันได้ดีค่ะ ออกแบบแพคเก็จสวยงามน่าใช้ด้วยล่ะ ยังไง ก่อนเอามาส์กมาใช้กันอย่าลืมเอาไปแช่ตู้เย็นนะคะ เอาออกมาเย็นๆ มาโปะหน้านี่สดชื่นมากเลยน้า


พบกันใหม่รีวิวหน้าจ้าาาาาาา ช่วงนี้เน้นเมาส์กหน้า รักษาสิวเยอะหน่อยเพราะรู้สึกว่า โบ๊เครื่องสำอางเยอะๆก็ไม่มีประโยชน์ถ้าเราไม่รู้จักดูแลผิวพื้นฐานของเรา ถ้าผิวดี แต่งหน้าก็จะแต่งง่ายขึ้นด้วย :) บ๊ายบายยค่ะ สำหรับใครอยากซื้อๅBaviphat ที่ Watsons ก็มีขายนะคะ หรือสั่งผ่านเว็บก็มีเหมือนกันค่ะ
Alll rights reserved : Pinnyforever.com. Powered by Blogger.

up