สัมผัสประสบการณ์สุดหรู กับ คู่หูคนใหม่ของพินนี่ LG PRADA 3.0


ถามกันมามากมาย และล้นหลาม หลายคนอาจจะเห็นพินนี่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ จาก ไอโฟนไปใช้ PRADA 3.0 ของ LG ไปได้ซักพักใหญ่แล้ว (ใหญ่มากเลยล่ะ น่าจะเป็นเดือนๆ ได้แล้ว) หลายคนสงสัย ว่า PRADA ตัวนี้มีอะไรดี ถึงทำให้พินนี่ ซึ่งรัก และบูชา สตีฟ จ็อบส์ มากถึงกับย้ายเครื่องหลักจาก ไอโฟน มาใช้ PRADA เป็นมือถือเครื่องหลักแทน


เอาล่ะ เราจะไม่มารีวิวเครื่องกันแบบนั่งบอกสเปคแยกเป็นชิ้นๆ หรือรีวิว feature , function หรอกนะ แต่พินนี่อยากเล่าให้ฟังเท่านั้นเองว่า ทำไมถึงเปลี่ยนใจมารัก PRADA ขนาดนี้ อันที่จริงแล้ว พินนี่หลง เสน่ห์ PRADA มาตั้งแต่สมัยรุ่นก่อนๆ PRADA by LG หรือ KE 850 รุ่นตั้งแต่สมัยปี 2007 นั่นล่ะค่ะ นานมากเลยนะเพราะนี่มันปี 2012 เข้าไปแล้ว ตอนนั้นเปิดตัวด้วยราคา 22,xxx บาท ซึ่งสมัยนั้น พินนี่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ แล้วก็ใช้ Samsung E700 มาได้เกือบสี่ปีพอดี แต่เพิ่งจะเปลี่ยนไปใช้ Nokia N70 เลยต้องพับโครงการซื้อ PRADA ไป อีกอย่างคิดว่า มือถือราคาเท่านี้ เก็บเงินกันกระอักเลยสมัยนั้น บอกตรงๆ ว่าไม่มีปัญญาซื้อค่ะ T_T เลยได้แต่เก็บความขมขื่นไว้ในใจเท่านั้นเอง สำหรับ PRADA ตอนนั้นถือว่าดีไซน์งดงามสวดยวด ที่สุด ดูผู้ดีที่สุดในยุคนั้นเลยค่ะ >>  ข้อมูล PRADA by LG 2007 <<


Source: http://www.fareastgizmos.com



Source: http://mosaic.cnfolio.com/uploads/FileManagerM528Coursework2007/Prada11.jpg


                             Source : http://cache.gizmodo.com/assets/images/4/2007/06/prada.jpg


จนมายุค PRADA 2.0 หรือ LG KF900 อันนี้เด็ดมาก ตัวโทรศัพท์ไม่ค่อยอยากได้เท่าไหร่นะ เพราะไม่ชอบแบบสไลด์เอาซะเลย แต่ชอบอุปกรณ์เสริมที่มาด้วยกัน คือ นาฬิกา ที่สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth รับสายและ sms ได้ ไฮคลาสมาก ตอนนั้นอยากได้นาฬิกาสุดๆ >> ข้อมูลของ LG PRADA 2.0  <<

Source: http://news.softpedia.com/newsImage/LG-KF900-Prada-2-Review-2.jpg


Source: http://i4.cdiscount.com/imagesok/medias/10/90250.jpg



และเนื่องจากแพง และรูปทรงยังไม่ถูกตาต้องใจ สุดท้ายก็โบกมือลา PRADA รุ่นนี้ไปอีกเช่นเคย แล้วมันก็หายไปนานมาก หายเงียบเข้ากลีบเมฆ ไม่มีท่าทีว่าจะผลิต รุ่นใหม่ออกมาเลย ไอ้เราก็รอ นะ รอนานมาก จนถอดใจแล้วไปถอย iPhone มาใช้เปลี่ยนไปสองรุ่นละ ทั้ง iPhone 3Gs และ iPhone 4 จน ตอนนี้มันจะออก iPhone 5 ละ ก็พอดีกับที่มีข่าวว่า เห้ย LG PRADA 3.0 ( LG P940) มันจะมา เลยตัดสินใจไม่เปลี่ยนเป็น iPhone 4s ก็ใช้มือถือ LG Optimus1 ไปพลางๆก่อนเพราะ iPhone พินนี่มันเจ๊ง (ฮาาา) เจ๊งมาหลายเดือนแล้วแล้วยังไม่มีเวลาไปซ่อม นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ย้ายมาใช้ PRADA เต็มตัวเพราะไอโฟนมันใช้ไม่ได้นี่เอง (ก๊าก)

ตอนเห็นแบบหนแรก รู้สึกว่าเห้ย สวยกว่า หรูกว่า ตอนรุ่นแรกมากๆ ที่สำคัญดูแววแล้วบางกว่ามาก ส่วนตัวชอบมือถือบางๆ จอใหญ่ๆ อยู่แล้ว ก็โดนสิครับพี่น้อง




Source: http://bit.ly/Hb3bx9


แต่พอเห็น Advertising ของ PRADA ที่โฆษณา ก็ยิ่งกรี๊ด สลบลั่นบ้าน มันสวย Chic ดูหรู และคลาสสิคมากด้วยการนำเอานักแสดงชาย Edward Norton  และ นางแบบ  Daria Werbowy มาเป็น Presenter ซึ่งก็ยิ่งช่วยให้ภาพลักษณ์ดูไฮคลาสขึ้น ที่สำคัญ เหมือน PRADA ก็พยายามจะบอกว่า ของของเค้าเนี่ยสามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง นะไม่ใช่แค่ หญิงอย่างเดียวแบบที่เข้าใจกัน


Source: http://bit.ly/GWDrnj




แต่ด้วยความหรูของมันและราคายังไม่ถูกเปิดเผย ไอ้เราก็หวั่นๆ ว่าจะแพงอีก แล้วก็จะชวดการได้มาครอบครองอีก แต่ปรากฏว่า พอประกาศราคาถึงกับอึ้งตะลึงไปเลย มันไม่ถึง 20,000 บาทอ่ะ มันแค่ 19,900 บาทเอง อึ้งแดร๊ก ..... ไปหลายวิ แล้วก็ตั้งตารอ เมื่อไหร่จะได้ว้าาาาาา เพราะมันสวยมาก ชอบก็ที่มันบาง จอใหญ่ แล้วก็นี่เลย ลาย SAFFIANO ที่ฝาหลังของตัวเครื่อง ซึ่งสาวๆ ขาแฟชั่นแบรนด์เนมน่าจะรู้จักกันดีเพราะเป็นลายกระเป๋าหนังซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ PRADA ซึ่งทางนั้นเขาใช้วิธีการเลเซอร์แบบพิเศษเรียกว่าอะไรจำไม่ได้ขออภัย = =" จึงทำให้ฝาหลังมีลักษณะเหมือนกับ ลายหนังของ PRADA เป๊ะ ซึ่งสวยมาก และทำให้ไม่ต้องหาซองหรือ case หนังใส่ทับเลย ไม่งั้นจะบดบังความสวยหมด (แต่จริงๆเป็นคนติดการใส่ Case เพราะกลัวเป็นรอย สุดท้ายก็ยังอยากหาเคสมาใส่อยู่ดีแต่ search ใน google ก็ไม่เจออันไหนสวยๆ เลยซักอัน เพราะ  PRADA เขาเหมา เรื่องการผลิตซองหรือเคสไว้เองหมด อยากได้ต้องไปซื้อที่ SHOP ซึ่ง..แหะๆ ไม่ซื้อดีกว่า = =")

Source: http://i.haymarket.net.au/News/5-best-luxury-phones-lg-prada-3.jpg



Source: http://www.gadgetguy.com.au/cms/wp-content/uploads/lg-prada-3-02-450x304.jpg



และพอได้ของจริงมาเชยชม อิชั้นก็ไม่ได้เป็นอันกินอันนอนฮ่ะ นั่งลูบไล้ทั้งวี่ทั้งวัน มันชั่งลื่น ช่างใหญ่(จอ) แล้วก็คลาสสิค ด้วยเมนูสีขาวดำ มันช่างงงงงงงโอ้ยยยย สวยยยย ชอบบบบ ทุกครั้งที่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นรู้สึก Chic มากจุดนี้ เวลาขึ้น BTS มีแต่คนมอง และแน่นอน จุดที่ชอบที่สุดคือคนใช้น้อย (เพราะเราไม่อยากโหลเห็นใครๆ ถือมือถือหน้าตาเหมือนเรา ชิชะ) เจิ่ด บอกได้คำเดียว ที่สำคัญถ่ายรูปสวยยย อร้ายยยยย  ผลงานถ่ายรูปโดย ป้าดา ในวันที่ไปงานเปิดตัว Sansiri Lounge ค่ะ สามารถชื่นชมตัวอย่างได้จากบทความ >> Sansiri 2012 กับเรื่องราวความอบอุ่นที่มากกว่าความเป็นบ้าน   << ได้ค่ะ งดงามมมมมม


แค่ถุงใส่ก็เริ่ดละ จะเอาอะไรอีกชีวิตนี้ อิ่มมมใจ

กล่องหนังงงงงลายเหมือนกระเป๋าเยย

อร้ายยยย ข้างในเป็นกำมะหยี่ด้วย

กำมะหยี่หรูหรา มีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ด้านล่าง

มาพร้อมคู่มือภาษาไทยด้วย

แล้วก็ทะแด๊นนนน สาวสวยยยของเรา งามมมมมมมม หมดจด > < ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบขอกอดที


และแน่นอนว่า มากับระบบปฏิบัติการ Android ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างเชื่อมต่อกับ Google หมด สบายมากหายห่วง เพราะเดี๋ยวนี้ แอพ เจ๋งๆ บน Android ที่ไม่แพ้ไอโฟนก็มีมากมาย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีแอพเจ๋งๆ ใช้ เพราะ MOLOME นี่ก็เริ่ด เดี๋ยวจะมี Instagram มาให้เล่นกันแล้วด้วย เจิ่ดล่ะงานนี้เมามันส์แน่นอน ขอฝากไว้สำหรับคนที่อยากได้ PRADA อยากให้คิดถึงแง่ Accessories และ Function สำหรับคุณผญ มันสามารถเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งให้คุณได้เลยล่ะ งดงามด้วย การใช้งานก็เริ่ด หากแต่... แบตหมดไวไปหน่อย - -" และหน่วยความจำภายใน 8 GB ออกจะน้อยไปหน่อยสำหรับสาวๆ ถ่ายรูปขาโหด เท่านั้นเอง นอกนั้นเริ่ดค่ะ แต่ยังไง ถ้าอยากซื้อใช้ก็อยากให้ดูการใช้งานเป็นหลักดีกว่า :) เพราะแต่ละคนมีสไตล์การใช้งานที่ค่อนข้างต่างกัน  ก่อนจากกันขอบอกว่า เลิฟ ยู ป้าดา  <3



ฝากไว้กับ VDO Presentation Trailer LG PRADA 3.0 ค่ะ สวยงามจริงๆ





สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวแบบละเอียด ๆ พวกสเปคเครื่องและการใช้งานต่างๆ สามารถหาอ่านได้จาก ลิงค์เหล่านี้ค่ะ

ข้อมูลสเปค จาก Siamphone : http://www.siamphone.com/spec/lg/prada_3.0.htm


รีวิวจากคุณ Jokermaster : 

ตอนที่หนึ่ง http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=joker-master&month=02-2012&date=20&group=2&gblog=104

ตอนที่สอง http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T11761713/T11761713.html

ตอนจบ http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T11765646/T11765646.html



รีวิวจาก PDAMobiz : http://www.pdamobiz.com/forum/forum_posts.asp?TID=521640&PN=1

รีวิวจาก Butthun Blog: http://blog.butthun.com/featured/lg-prada-premium-mass/

LG Blogger.com : http://www.lgblogger.com/2012/02/13/guru-prada-phone-3-0-by-lg/

Sansiri 2012 กับเรื่องราวความอบอุ่นที่มากกว่าความเป็นบ้าน



** ข่าวประชาสัมพันธ์ Social Media Event **



หลายคนที่ติดตาม Twitter , Facebook พินนี่อาจจะพอทราบแล้วว่าเมื่อวานพินนี่ได้ไปงานเปิดตัว Lounge ของ Sansiri
ขึ้นชื่อว่า แสนสิริ ใครๆ ก็ต้องรู้จักว่าเป็น "บ้าน" "คอนโด" หรือที่พักอาศัยอะไรก็ว่ากันไป แต่หนนี้มันมากกว่านั้น แสนสิริ มองคำว่า "บ้าน" แตกต่างออกไป
นั่นเพราะ ถึงแม้คนที่ไม่ได้เป็น"ลูกบ้าน" ของแสนสิริ ก็สามารถมาใช้บริการที่ Lounge นี้ได้เช่นกันค่ะ มันคือที่พักผ่อน หย่อนใจ เป็นที่พบปะเพื่อนๆ เป็นทีที่
"อบอุ่น" ไม่แพ้ บ้าน แต่เป็นบ้านที่มีดีไซน์และรสนิยมแซ่บมาก ไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม

จริงๆ แล้วแสนสิริเค้าเปิดตัว Lounge มาก่อนหน้านี้สองสามวันแล้ว แต่วันที่โดนเชิญไปเค้าออกจะเน้น CSR คือการทำเพื่อสังคมมากกว่า Present ผลงานที่ทำเพื่อสังคมที่ผ่านมา เท่าที่จำได้นะ คือจะมีร่วมกับ Unicef ที่เรียกว่า Uniblog อะไรซักอย่าง(ถ้าจำไม่ผิดนะ) ที่ไปเมืองเหนือกันไปช่วยเหลือเด็กๆ ก็จะมีตัวแทนบล็อกเกอร์และ Influencer เช่น พี่ @bubblybubble @kafaak @dj_maymey @sresuda และอีกเยอะแยะมากมายเลย จำไม่หวาดไม่ไหว ก็นั่นล่ะค่ะ หนนี้ก็อีกเช่นกัน เค้ามีโครงการใหม่ ช่วยเหลือเด็กๆเหมือนเดิม


คือโครงการ Letsplaytogether.com ค่ะ ที่แสนสิริร่วมกับ UnicefThailand มีคอนเซปว่า ทุกๆ 500 like ที่เกิดขึ้นบน Letsplaytogether.com เนี่ยนะ Sansiri เค้าจะมี Sport gift box ก็คือกล่องอุปกรณ์กีฬา ชนิดต่างๆ มอบให้กับน้องๆ ที่ขาดแคลนค่ะ ไม่ยากเลยเนอะ ไปช่วยๆ กันให้น้องๆ มีอุปกรณ์กีฬาได้ใช้กัน พินนี่เล่นไปแล้วล่ะ กด ไปเป็นคนที่ 93 พอดี มันก็จะมีให้เล่นเกมส์ แต่งตัวนักกีฬาค่ะ มีทั้ง แบดมินตัน ฟุตบอล วอลเลย์ เยอะมาก ลองไปเล่นดูนะคะ สนุกดีเหมือนกัน ได้ทำบุญอีกด้วย

เอาล่ะที่พินนี่บอกว่าที่นี่รสนิยมแซ่บกว่าที่หย่อนใจธรรมดาๆ ก็คือ นี่เลยค่ะ Collectible item นั่นเอง Collectible item คือ mini museum ในความรู้สึกพินนี่นะ เพราะเป็นที่ที่รวมของแบรนด์เนมหายากยิ่ง มาจัดโชว์ไว้ตามจุดต่างๆ ของ Lounge ค่ะ ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์และจินตนาการให้คนไปนั่งทำงานได้มากทีเดียวเชียว
จริงๆ ที่นี่ออกแนว Library หรือห้องสมุดนะคะ มีสองชั้นด้วยกัน แต่จัดเป็นสัดส่วนสวยงาม และมีพนักงานที่ถูกเทรนมาอย่างดีให้ดูแลพวกคุณนั่นแหละได้ประหนึ่งดาราเซเลบ และราชาทีเดียว

คอนเซปย่อมๆ เข้าใจง่ายๆ คือ แสนสิริเค้าอยากทำให้คนที่เข้ามาใน Lounge ได้รับรู้ถึงประสาทสัมผัสทั้ง 5 – รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส ก็เลยไปโคกับแบรนด์ต่างๆ จัดทำเป็น product น่ารักๆ ที่เรียกว่า Sansiri Collection ออกมา 5 แบบด้วยกันคือ
  • ปัญญ์ปุริ (Panpuri) แบรนด์เครื่องหอม และประทินผิวชั้นนำของไทย สร้างสรรค์กลิ่นหอม (Scent) จะเรียกว่า Sansiri Signature Scent with Panpuri” มีส่วนผสมของกลิ่นวนิลลาและลาเวนเดอร์  ด้วยค่ะ ไปดมมาแล้วหอมจริงอะไรจริงนะ กล่องและขวดน่ารักมากด้วย
  • พาซาญ่า (PASAYA) ผู้นำด้านเครื่องนอนและสิ่งทอชั้นนำของไทย ก็มีการออกแบบลายผ้าด้วยแรงบันดาลใจจากโลโก้ของแสนสิริด้วยค่ะ อันนี้เน้นให้เพื่อให้ได้สัมผัส(Touch) กับความนุ่มนวลของผ้า เรียกว่า “Sansiri Signature Bedding Set with PASAYA”
  • ชา No. 57 เน้นในส่วนของรสชาติ (Taste) มีการนำเอาความหอมดั้งเดิมของชาเอิร์ล เกรย์ (Earl Grey) มาเจือด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลาเวนเดอร์  เรียกว่า “Sansiri Signature Tea Blend by No.57” 
  • เลิฟอิส (Loveis) โดยบอย โกสิยพงษ์และศิลปินชั้นนำ ก็มาถ่ายทอดบทเพลงเพราะๆ ถึง 6 เพลงด้วยกัน เรียกว่า "Sansiri Sound by LOVEis"
ขอบอกว่าส่วนตัวเลยนะ ชอบ Panpuri กับชาเอิร์ลเกรย์มาก มันแหล่มมม
เด๋วจะพาทัวร์ Lounge กับ Collectible item สวยๆ ค่ะ :)

เริ่มที่ประตูทางเข้าเลยค่ะ อลังการ


ลงทะเบียนเข้างาน เอาชื่อแปะหน้าอกกันก่อนจะได้รู้ว่าไผเป็นไผ


Library ชั้นบนค่ะ สวยมากน่าถ่ายรูปเป็นที่สุดค่ะ


อันนี้คือ Panpuri ที่บอกค่ะ สวยใช่ม้า


ผลงานเพลงจาก Loveis

ชา ที่บอกค่ะ กล่องเล็กๆ น่ารักชะมัด


บรรยากาศรอบๆ ก็สวยมากๆๆๆ เช่นกันค่ะ มีอยู่หลายมุมทีเดียว

สำหรับนั่งชิวๆ กันสองคน


อันนี้เก๋มากเอากระเป๋า LV มาเป็นโต๊ะ = ='


ให้ดูชัดๆ กระเป๋า LV จริงๆ = ="


อันนี้สำหรับนั่งเป็นกลุ่มเป็นก้อน ปรึกษางานกันได้ค่ะ


มุมนี้ก็ไม่เลวนะคะ :)


Collectible item จักรยาน Hermes ค่ะ ราคาก็ = ="สยึมกึ๋ย


นิตยสาร Visionaire ฉบับที่ 52 ค่ะ เป็นนิตยสารแฟชั่น Marc Jacob คุมบังเหียนเองเลย


The monocle special


แว่นตาจาก Thierry Lasry ค่ะ


KAWS and Originalfakes


อันนี้สวยเด็ด Marks&^Lona Golf Mat เหมาะสำหรับคนชอบตีกอล์ฟ


อันนี้ชอบมาก Alexander McQueen ค่ะ!!


อันนี้ Smythson Crocodile emboss set เป็นหนังจระเข้หมดเลย


"iPad case อันนี้งามมาก จาก Corso Como"


Corso Como 20 yrs CD


อันนี้ Lanvin Fashion Mannequin

อันนี้้เป็น Olympix Le-Tan Book Clutch คุ้นๆ นะ Madame Bovary 555


Gummi Girl : Yoshitomo Nara Book น่าร้ากก



Radiocubo



คร่าวๆ ละกันเนอะ Collectible item ของจริงมีเยอะกว่านี้อีกอ่ะค่ะ ต้องไปเดินดูเอง สวยๆ ทั้งนั้นเลยดูแล้วได้ไอเดียทำอะไรอีกเยอะแยะ พินนี่พาไปหม่ำก่อนดีกว่าอาหารอร่อยค่ะ

เค้กชอคกับทาร์ตสตรอเบอรี่ขั้นเมพ


Tomato อะไรซักอย่าง


เบอร์เกอร์ทูน่า กับแซนวิช

มาการูนค่ะ อร่อย


อันนี้เปรี้ยวไปหน่อยนะ


เสร็จแล้วเราก็ต้องถ่ายรูปกะบรรดาคนมาร่วมงานใช่มะอิอิ ได้เจอคนรู้จักเยอะเลยค่ะ

พี่ปุ้ย @puyisme beauty blogger ชื่อดัง


น้อง @erk_erk ก็มา

น้องเอิ๊ก ป้าจีน Jeban และคุณปอนด์ @bonjaideetv จากใจดีทีวีค่ะ


น้องเอิ๊ก คุณวินจาก LG และพินนี่

พินนี่กะพี่พลอย Ploy Onewayticket Blogger สาวสวย


พินนี่ได้ถ่ายกะน้องแป๋ม ด้วยค่ะ :)


ที่สำคัญได้ถ่ายกะพี่ปี่ @dhanis พี่สาวที่น่ารักที่สุดของนู๋ xoxo

Love you P' Puy <3


พินนี่และน้องเอิ๊ก ชั้นสองของ Sansiri Lounge สวยมากค่ะขอบอก


มุมนี้ขอเลย ชอบมาก ถ่ายมาแล้ววินเทจสุดๆ


พี่ปุ้ย พินนี่ น้องเอิ๊ก เอ๊าาาพรีเซ้นหน่อย


พินนี่ได้ถ่ายรูปกะดีเจนุ้ยด้วยล่ะ ตัวจริงหน้าใสขาววววมาก


ได้ของที่ระลึกติดมือกลับบ้านด้วยล่ะ


ผู้ร่วมงานหน้าตาดี อิอิ


มีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือสังคม Volunteerconnex ของพี่รอน @rockdaworld


บรรยากาศน่านั่งจิงจิ๊ง


ลืมบอกไปว่ามี iMac / iPad และ Wifi ให้ใช้ด้วยนะคะ


ชั้นหนังสือสวยๆ


ชั้นหนังสือสวยๆ


เค้าน์เตอร์เก๋ๆ


มีน้ำยี่ห้อ แสนสิริ คอยดับกระหายให้ด้วยนะคะ ขอชากาแฟอะไรกินก็ได้นะ

ชั้นหนังสือสวยๆ



จะบอกว่า คนที่ไม่ใช่ลูกบ้านของแสนสิริสามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรีนะคะ รีบมา Register ซะดีๆ Register ได้ถึง 30 APR 2012 นะคะ ช้าหมดอดไม่รู้ด้วย พินนี่ไปเอามาแล้ว ล่ะ สามารถ พาผู้ติดตามเข้าไปได้ 4 คนนะคะ Sansiri Lounge เปิดบริการตั้งแต่ 11.00-20.00 น. นะคะ มีเครื่องดื่มทั้ง ชา กาแฟ น้ำเปล่าให้ แล้วก็ Wifi ให้ใช้ทำงาน โซฟานิ่มๆ และกลิ่นหอมๆ บรรยากาศดีๆ ฮิ้ววววว Sansiri Lounge ตั้งอยู่ชั้น 3 ของพารากอน ค่ะ ติดกับ Starbucks เลยหาง่ายมาก รีบแวะไปนะอิอิ

โชว์บัตรซะหน่อย



แล้วเจอกันค่ะ เพราะพินนี่จะไปนั่งทุกวันเลย (ฮาาา) และสำหรับใครที่อยากดูภาพบรรยากาศ เต็มๆ ในวันนั้นสามารถคลิ๊กได้ที่รูปด้านล่างเลยค่ะ :)











Alll rights reserved : Pinnyforever.com. Powered by Blogger.

up